1. การสวดสายประคำเป็นวิธีการภาวนาที่ดี
เพราะเป็นการภาวนาด้วยพระวาจาที่มาจากธรรมลึกในพระคัมภีร์ การสวดสายประคำยังเป็นวิธีการภาวนาที่พระนางมารีย์ประทานแก่เราเอง พระนางทรงกระตุ้นเตือนเราให้สวดสายประคำยังเป็นวิธีการภาวนาที่พระนางมารีย์ประทานแก่เราเอง พระนางทรงกระตุ้นเตือนเราให้สวดสายประคำอย่างสม่ำเสมอ สายประคำเป็นเครื่องมือช่วยให้เกิดอัศจรรย์ต่างๆ ในชีวิตของเรา จริงอยู่ว่าเรามีวิธีการหลากหลายในการภาวนา ทั้งการขับร้องเพลงสรรเสริญ หรือการอ่านหนังสือศรัทธาเรื่องเกี่ยวกับพระเจ้า แต่การสวดสายประคำก็เป็นการภาวนาที่ยอดเยี่ยม
2. เพราะเราทุกคนต้องการแม่
เคยไหมที่เราโทรหาแม่ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีเรื่องจะคุยอะไรมากมาย เราเพียงอยากโทรไปเพราะรู้ว่าการใช้เวลาเพื่อพูดคุยกับแม่นั้นเป็นสิ่งสำคัญ และมีความหมายสำหรับจิตใจ เช่นเดียวกัน แม้การสวดสายประคำไม่ใช่เรื่องน่าสนุก แต่ก็ช่วยให้เราได้ใกล้ชิดกับพระมารดาของพระเยซูเจ้า และเป็นมารดาของเราด้วย เมื่อเราใกล้ชิดกับพระนาง แน่นอนว่าพระนางจะทรงจำเราให้ได้ใกล้ชิดพระเยซูเจ้าด้วย การสวดสายประคำอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นเหมือนการรักษาสัมพันธภาพกับคนที่คุณรักให้แนบแน่นเสมอ
3. เราอยู่ท่ามกลางมิตรสหายที่แสนดี
นับตั้งแต่วันแรกที่พระนางมารีย์แนะนำให้มนุษย์รู้จักการสวดสายประคำ ก็มีบรรดานักบุญมากมายนับไม่ถ้วนสวดภาวนาด้วยวิธีการนี้เป็นประจำ เพราะเป็นวิธีภาวนาที่ทำให้ผู้คนเท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นพระสันตะปาปาหรือชาวนา ไม่ว่าจะเป็นอัจฉริยะหรือบกพร่องทางสติปัญญา มนุษย์หลายล้านคนทั่วโลกต่างสวดสายประคำนับเป็นเวลาพันปีแล้ว ที่การภาวนาสายประคำช่วยให้คนบาปกลับใจและศักดิ์สิทธิ์ขึ้น
4. ทำให้วันที่สับสนวุ่นวายกลายเป็นวันศักดิ์สิทธิ์
เมื่อเราพยายามหาเวลานั่งลง และสวดภาวนาใจแต่ละวันเราจะพบว่ามีอุปสรรคขัดขวางมากมาย แต่อาจทำให้ใจของเรากระหายจะภาวนามากขึ้น และแทนที่จะสวดสายประคำทีเดียวทั้งสาย เราก็อาจใช้วิธีนี้แทน คือ ขณะที่ขับรถไป เราก็สวดสายประคำได้ ขณะที่เรารอให้ไมโครเวฟทำงานเสร็จ เราก็สวดได้อีกสิบเม็ด แม้ในช่วงแรก ๆ ที่ทำแบบนี้ ดูเหมือนใช้กลโกงในการสวดภาวนา แต่ที่สุดเราจะรู้สึกว่าทุกครั้งที่มีเวลาแม้เล็กน้อย การสวดภาวนาจะกลายเป็นสิ่งแรกที่ทำโดยอัตโนมัติ เราสามารถสวดสายประคำในทุกที่ถ้าเทียบกับเครื่องคอมพิวเตอร์ การสวดสายประคำเหมือนเป็นการกดปุ่ม Start ในชีวิต จริงอยู่ว่าการจัดเวลาสำหรับการสวดสายประคำอย่างเต็มสายเป็นเรื่องดี แต่อาจทำได้ยาก อย่างไรก็ตาม เราสามารถปรับการภาวนาให้ลงตัวกับเวลาที่เรามีอย่างดีที่สุด การภาวนาก็จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราได้
5. แม้ไม่ได้ใส่ใจมากนัก แต่อย่างน้อยเราก็ได้ภาวนา
เมื่อเราสวดสายประคำ แน่นอนว่าเราอาจไม่สามารถจดจ่ออยู่กับธรรมล้ำลึกได้ตลอด เมื่อใดที่พระเจ้าดูเหมือนห่างไกล และการอ่านพระคัมภีร์ไม่ได้ช่วยบรรเทาใจ บทเพลงสรรเสริญกลายเป็นความว่างเปล่าไร้ความหมาย ไม่มีเวลาสำหรับการสวดภาวนาประจำวัน แม้พยายามอย่างไรก็เป็นไปไม่ได้ แต่อย่างน้อยเราสวดสายประคำได้ แม้ในขณะที่รู้สึกสงสัยและถูกทอดทิ้ง และสวดได้เล็กน้อย แต่พระนางมารีย์จะทรงยึดเราไว้ด้วยสายประคำ
และขณะที่เรากำลังฟุ้งซ่าน รู้สึกไกลห่างหรือรู้สึกเหมือนต้องวิ่งมาราธอนไม่รู้จบสิ้น เราก็ยังสวดบทวันทามารีย์นั้นซ้ำ ๆ ออกมาได้อย่างต่อเนื่อง แม้บางคราวเราไม่ได้นึกถึงธรรมล้ำลึกเหล่านั้นเลย แต่ขอเพียงเราพยายามสวดภาวนาเรื่อย ๆ ไปอย่างมุ่งมั่น ถ้อยคำเหล่านั้นจะกลับมีความหมายขึ้นมาในใจเราอีกครั้งหนึ่ง
พระเจ้าทรงใช้ทุกวิธีการ เพื่อนำเรากลับไปหาพระองค์ เมื่อเราได้รับกลับไปหาพระองค์เมื่อเราได้รับความบรรเทาใจจากการสวดสายประคำ จงสัญญากับพระนางมารีย์ว่าเราจะสวดภาวนาทุกวัน สายประคำนี้จะพยุงเรา ในช่วงเวลาแห่งความโดดเดี่ยวจนกว่าเราจะสัมผัสถึงความรักของพระองค์ได้อีกครั้ง
6. สิ่งยึดเหนี่ยวในยามวิกฤติ
ในเวลาที่เหตุกาณ์รอบตัวดำเนินไปอย่างสงบสุข เราอาจละเลยการภาวนา หรือทำเพราะเป็นหน้าที่ แต่เมื่อชีวิตดูมืดมน เมื่อนั้นแหละที่เรารีบวิ่งไปหาพระนางมารีย์เมื่อได้รับข่าวร้าย เมื่ออกหัก เศร้าโศกเสียใจ มือของเราควรควานหาสายประคำ ในความเจ็บปวดเหล่านั้น พระนางมารีย์จะเป็นผู้นำเราให้กลับมาหาพระองค์
เมื่อเราหลงทาง พระนางมารีย์จะหาเราจนพบ และพากลับบ้าน ก่อนที่เราจะรู้ตัวว่าเราหลงทางเสียอีก
การภาวนาจะกลายเป็นจังหวะชีวิตที่มุ่งมั่นจะสวดภาวนาและหันไปหาการสวดภาวนาและหันไปหาการสวดสายประคำทันที เมื่อตกอยู่ในวิกฤติ และหยิบสายประคำขึ้นสวดก็จะก่อให้เกิดสิ่งที่เกินความคาดหมายในชีวิตของเรา