การอุ้มบุญ หมายถึง การให้หญิงอื่นอุ้มท้องแทนคู่สามีภรรยาที่ไม่สามารถมีบุตรได้ (และอยากจะมี) โดย
- นำเชื้อของฝ่ายชาย (พ่อ) กับไข่ของฝ่ายหญิง (แม่) มาผสมกันในห้องทดลอง แล้วจึงฉีดเข้าในมดลูกของหญิงที่จะอุ้มบุญ
- นำเชื้อของฝ่ายชาย (พ่อ) กับไข่ของหญิงที่จะอุ้มบุญมาผสมกัน แล้วฉีดฝังในมดลูกของหญิงที่จะอุ้มบุญ

แนวทางของพระศาสนจักรคาทอลิก
    +  บุตรต้องเกิดจากความรักของสามีภรรยาที่แสดงออกผ่านทางเพศสัมพันธ์แบบธรรมชาติ  ไม่ต้องพึ่งเครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ
    +  คู่สามีภรรยาควรน้อมรับพระประสงค์ของพระ ทั้งในกรณีมีบุตร และกรณีที่ไม่สามารถมีบุตรได้
    การอุ้มบุญ  จึงเป็นการให้กำเนิดบุตรโดยใช้เครื่องมือด้านวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วยเหลือ  มิใช่เกิดจากเพศสัมพันธ์ตามธรรมชาติของคู่สามีภรรยา และการตั้งครรภ์ก็จ้างวานหรือขอร้องให้หญิงอื่นตั้งครรภ์แทน
ผลที่ตามมา

-    ถ้าน้ำเชื้อเป็นของฝ่ายชาย (พ่อ) กับไข่ของฝ่ายหญิง (แม่) ด้านพันธุกรรมเด็กที่เกิดมาเป็นลูกของสามีภรรยาคู่นี้  แต่ด้านการหล่อหลอมเลี้ยงดูในครรภ์เป็นของหญิงที่อุ้มบุญ

-    ถ้าน้ำเชื้อเป็นของฝ่ายชาย (พ่อ) กับไข่ของหญิงที่จะอุ้มบุญ  ด้านพันธุกรรมเด็กที่เกิดมาเป็นลูกของฝ่ายชาย (พ่อ) กับหญิงที่อุ้มบุญ  เมื่อคลอดออกมาเด็กเป็นลูกของฝ่ายชาย (พ่อ) และฝ่ายหญิง (แม่)  กรณีนี้ หญิงที่อุ้มบุญเป็นแม่ทั้งด้านพันธุกรรมและการหล่อหลอมเลี้ยงดูในครรภ์ด้วย

-    ถ้าน้ำเชื้อเป็นของชายคนหนึ่ง (ใครก็ไม่รู้) กับไข่ของหญิงคนหนึ่ง (ใครก็ไม่รู้)  เด็กที่เกิดมาเป็นลูกของชายคนนั้น กับหญิงคนนั้น (ใครก็ไม่รู้)  ด้านการหล่อหลอมเลี้ยงดูในครรภ์เป็นของหญิงอุ้มบุญ  เมื่อเด็กคลอดออกมาเป็นลูกของสามีภรรยาที่ต้องการมีลูก

    กรณีแบบนี้  เด็กที่เกิดมาทราบที่มาที่ไปของเขา  เขาจะรู้สึกอย่างไร  มันเป็นการสร้างแผลในใจให้เด็กนั้นหรือไม่?  น่าคิด น่าไตร่ตรองนะ  สิ่งที่พระเจ้าให้มานั้นเหมาะสมแล้ว  พระประสงค์ของพระมีคุณค่าเสมอในชีวิตของเรา  น้อมรับเถิด...
  (จากคอลัมน์ ถามมา-ตอบให้ สารสังฆมณฑลราชบุรี ฉบับที่ 1 เดือนพฤษภาคม - เดือนสิงหาคม 2017 )