"รักจริงจึงเตือน" ข่าวดีสัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา "รักจริงจึงเตือน"
ข่าวดีสัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา

(วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน 2020)

ก.ความสำคัญ
    1.ข่าวดีจากพระวาจาของพระเจ้าในมิสซาวันนี้คำสั่งของพระเจ้าที่ให้เราช่วยกันรับผิดชอบชีวิตด้านจิตวิญญาณของตัวเราเองและของผู้อื่น ในครอบครัว สมาชิกในวัดและชุมชน ความรับผิดชอบนี้สืบเนื่องมาจากเอกลักษณ์ของตัวเราในการเป็นบุตรของพระเจ้า เราเป็นพี่เป็นน้องกันในครอบครัวเดียวกันจึงต้อง “ห่วงใยดูแลกันและกัน” หน้าที่ 3 ประการที่พึงมีคือ รัก แก้ไขความบกพร่องด้วยความรอบคอบ และให้อภัยกัน

ข.พระคัมภีร์และคำสอน     

      1.บทอ่านที่หนึ่ง (อสค. 33:7-9) พระเจ้าทรงมอบหมายหน้าที่ให้ประกาศกเอเสเคียลเป็น “คนยามสำหรับชนชาวอิสราเอล” ยามที่คอยตักเตือนถึงอันตรายจากความประพฤติผิดทางศีลธรรม ถ้าประกาศกเอเสเคียลไม่ทำหน้าที่ แล้วชาวอิสราเอลทำสิ่งชั่วร้าย พระเจ้าจะลงโทษประกาศก ตรงกันข้ามถ้าประกาศตักเตือนแล้ว แต่พวกเขาไม่เชื่อฟังประกาศกก็ไม่โดนลงโทษ ดังนั้นใครมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบหน้าที่ของตนอย่างเต็มที่ก่อน
      2.บทอ่านที่สอง (รม. 13:8-10) นักบุญเปาโลสอนเราว่าถ้าเรารักใครจริง เราต้องกล้าที่จะตักเตือนกันเพื่อให้เกิดการแก้ไข ด้วยความรอบคอบ เพื่อให้เป็นคนดีที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
      3.พระวรสาร (มธ. 18:15-20) พระเยซูทรงสอนว่าศิษย์ที่แท้ของพระองค์นั้นไม่เพียงแต่ให้ความช่วยเหลือเพื่อนบ้านทางด้านวัตถุปัจจัยหรือสิ่งของภายนอกเท่านั้น แต่ต้องช่วยเหลือด้านจิตวิญญาณด้วย เรื่องที่พระองค์ทรงแนะนำในวันนี้คือการตักเตือนกันและกัน การแก้ไขความผิดของกันและกัน โดยเริ่มจาก การบอกกันตัวต่อตัว การหาผู้ที่เคารพช่วยพูดช่วยบอก การให้ชุมชนช่วยกันภาวนา และที่สุดคือการปล่อยให้เขาได้มีโอกาสทบทวนชีวิตเป็นการส่วนตัว

 

ค.ปฏิบัติ     

    1. “ดูแลและห่วงใยกัน” เราเป็นครอบครัวเดียวกัน คนสมัยใหม่มักคิดว่า “เราไม่มีสิทธิไปยุ่งเรื่องของคนอื่น มันเป็นสิทธิส่วนบุคคล” “ตัวเราดีแล้วหรือที่จะไปตักเตือนคนอื่น” แต่พระเยซูสอนเราว่าเราเป็นพี่น้องกัน เราต้องห่วงใยและดูแลกันและกัน เราจะปล่อยให้พี่น้องของเราต้องอยู่ในหนทางที่ไม่ถูกต้องได้อย่างไร ต้องช่วยกันให้คำแนะนำที่ถูกต้องเหมาะสม ต้องเพียรทน ให้โอกาสกัน ทั้งนี้เพราะเรารักเขา
    2. “ร่วมมือกัน” พระเยซูสอนเราว่า ที่ใดมีสองหรือสามคนชุมนุมในนามของเรา เราจะอยู่ที่นั้น ท่ามกลางพวกเขา” (มธ 18:20) เราต้องไม่ทำงานคนเดียว ถ้าพวกเรารวมกันทำงานภายใต้การทรงนำของพระจิต กลุ่มของเราจะไม่ใช่กลุ่มธรรมดาที่มีแต่จำนวน แต่จะกลับกลายเป็นเครื่องมือยิ่งใหญ่ของพระเจ้า วัดของเรามีกลุ่มต่าง ๆ หลายกลุ่ม ให้เราร่วมมือกันทำงานตามพระพรที่กลุ่มหรือองค์กรของเรามี เราจะได้รับใช้พระเจ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ กลุ่มของเราจะได้นำผู้คนต่าง ๆ ให้เข้ามารู้จักและใกล้ชิดพระเจ้าได้มากยิ่งขึ้น ส่วนใครที่ยังไม่มีกลุ่มสังกัดควรเลือกกลุ่มที่เหมาะสมกับตนเอง เพื่อจะได้รับใช้พระเจ้าได้อย่างดียิ่งขึ้น