UT UNUM SINT : เพื่อทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกัน


               เหตุการณเช่นนี้เกิดขึ้นกับพระเยซูเจ้ามาแล้ว พูดไปแล้วก็ไม่น่าเชื่อว่า คนที่ทำความดีแบบพระเยซูเจ้า จะมีคนไม่ยอมรับ ดูซิพระองค์เสด็จไปที่ไหนก็ทำแต่ความดีที่นั้น พระองค์ทรงชี้ทางให้ประชาชนดำเนินชีวิตอย่างดีเพื่อจะได้มีความสุขแท้จริง พระองค์สอนให้รักและให้อภัยต่อกันและกัน พระองค์ทรงพูดและกระทำตามคำพูดนั้น แต่ก็มีคนจำนวนมากไม่ชอบพระองค์ ปฏิเสธพระองค์ ด่าว่าพระองค์ และที่สุดลงโทษพระองค์

             ทำไมคนเราจึงไม่ยอมรับความจริง ไม่ยอมรับคนดี ไม่ยอมรับศาสนา ไม่ยอมรับคำสอนของพระเยซู ???????

            คงมีหลากหลายเหตุผลด้วยกัน แต่เหตุผลประการหนึ่งที่สำคัญมากก็คือ ความจริงอาจทำให้เขาต้องเจ็บปวดหรือต้องสูญเสียอะไรบ้างอย่างที่เรายึดติดอยู่ก็ได้

            การยอมรับความจริงนี้ไม่ได้หมายถึงแค่การยอมรับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคุณงามความดีและความรักของพระเจ้าเท่านั้น แต่เป็นการยอมรับความจริงที่ว่า เรามนุษย์นั้นจะต้องตอบสนองต่อความดีและความรักที่พระเจ้ามีต่อเราอย่างเหลือล้น และสิ่งที่พระองค์ทรงเรียกร้องเรานั้นก็คือ การยอมรับพระองค์ที่ไม่ใช่แค่การยอมรับด้วยปากหรือคำพูดเท่านั้น แต่เป็น “การเปลี่ยนแปลง” ชีวิตของตนเองเลยทีเดียว เป็นการเปลี่ยนแปลงความคิดและพฤติกรรมของตนเอง เมื่อความจริงที่เราต้องเผชิญนั้นเป็นความอ่อนแอของเรา เป็นความล้มเหลวของเรา เป็นความบกพร่องของเรา เป็นนิสัยที่ไม่ดีของเรา เป็นเรื่องที่เราไม่อยากให้ใครมาแตะต้องเรา ฯลฯ ที่สุด สิ่งที่เรากลัว หรือทำให้เราไม่ยอมรับความจริงหรือความดี คือ เรากลัวที่จะต้อง “เปลี่ยนแปลง” ตนเองนั้นเอง(เหมือนผู้ปกครอบที่ไม่ยอมรับว่าลูกของตนประพฤติผิด)

พระวาจาของพระเจ้าประจำสัปดาห์นี้ พระเยซูเจ้าทรงสอนเราเป็นเรื่องเปรียบเทียบดังนี้
             “ท่านทั้งหลาย จงฟังอุปมาอีกเรื่องหนึ่งเถิด คหบดีผู้หนึ่งปลูกองุ่นไว้สวนหนึ่ง ทำรั้วล้อม ขุดบ่อย่ำองุ่น สร้างหอเฝ้า ให้ชาวสวนเช่า แล้วก็ออกเดินทางไปต่างเมือง เมื่อใกล้ถึงฤดูเก็บผล เจ้าของสวนจึงให้ผู้รับใช้ไปพบคนเช่าสวนเพื่อรับส่วนแบ่งจากผลผลิต แต่คนเช่าสวนได้จับคนใช้ ทุบตีคนหนึ่ง ฆ่าอีกคนหนึ่ง เอาหินทุ่มอีกคนหนึ่ง เจ้าของสวนจึงส่งผู้รับใช้จำนวนมากกว่าพวกแรกไปอีก คนเช่าสวนก็ทำกับพวกนี้เช่นเดียวกัน ในที่สุด เจ้าของสวนได้ส่งบุตรชายของตนไปพบคนเช่าสวน คิดว่า ‘คนเช่าสวนคงจะเกรงใจลูกของเราบ้าง’ แต่เมื่อคนเช่าสวนเห็นบุตรเจ้าของสวนมา ก็พูดกันว่า ‘คนนี้เป็นทายาท เราจงฆ่าเขาเสียเถิด เราจะได้มรดกของเขา’ “เขาจึงจับบุตรเจ้าของสวน นำตัวออกไปนอกสวนแล้วฆ่าเสีย ดังนี้ เมื่อเจ้าของสวนมา เขาจะทำอย่างไรกับคนเช่าสวนพวกนั้น” บรรดาผู้ฟังตอบว่า “เจ้าของสวนจะกำจัดพวกใจอำมหิตนี้อย่างโหดเหี้ยม และจะยกสวนให้คนอื่นเช่า ซึ่งจะแบ่งผลคืนให้เขาตามกำหนดเวลา”  (มัทธิว 21:33-43)

             เราทราบดีว่า เจ้าของสวนคือพระบิดา บุตรของเจ้าของสวนคือพระเยซู สวนองุ่นคืออาณาจักรพระเจ้า แล้วคนเช่าสวนหมายถึงใคร ใครคือคนที่ไม่ยอมรับพระเยซูเจ้า ใครคือผู้ปฏิเสธความจริง ใครคือผู้ปฏิเสธพระเยซูเจ้า ใครที่ทำร้ายพระเยซูเจ้า

             เราอาจจะตอบว่า ก็คือคนที่ไม่มีศาสนา คนที่ไม่มีความเชื่อ แต่เมื่อเราอ่านพระวาจาของพระเจ้าแล้ว เราจะเห็นว่าพระเยซูเจ้าทรงเล่าเรื่องนี้ให้บรรดาหัวหน้าสมณะและผู้อาวุโสของประชาชนฟัง บุคคลทั้งสองกลุ่มนี้ถือว่าตนเองเป็นพวกที่มีความรู้ทางเรื่องศาสนาดี เป็นคนเคร่งครัดในสายตาของคนอื่นๆ ดังนั้นพระเยซูเจ้าไม่ได้สอนบรรดาคนที่ไม่นับถือศาสนาหรือคนไม่เชื่อเรื่องศาสนา แต่พูดสอนกับคนที่ถือว่าตนเองรู้เรื่องศาสนาดีโดยตรงเลยทีเดียว

             ดังนั้นจุดนี้จึงเป็นประเด็นที่ให้เราต้องตั้งคำถามกับตนเอง ใครกันแน่ที่ปฏิเสธพระเยซูเจ้า ใครกันแค่ที่ลงโทษพระเยซูเจ้า ความศรัทธาที่แท้จริงอยู่ทีไหน เป็นแค่เรื่องการยอมรับภายนอกหรือการยอมรับที่ออกมาจากหัวใจ

           คำสอนของพระเยซูเจ้าเป็นสิ่งที่ท้าทายเราอย่างมากทีเดียว และบางครั้งสำหรับบางคนเป็นเรื่องที่น่ากลัวด้วยซ้ำไป เพราะการฟังหรือการยอมรับพระเยซูเจ้านั้นหมายถึงการนำเอาคำสั่งสอนที่เราฟังและเชื่อนั้นไปปฏิบัติจริงในชีวิต เราคงจำคำสอนเด่นๆของพระเยซูเจ้าที่ว่า เช่น ผู้ใดไม่แบกกางเขนของตนและติดตามเรา ผู้นั้นเป็นศิษย์ของเราไม่ได้เช่นเดียวกัน - ถ้าท่านให้อภัยผู้ทำความผิด พระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ ก็จะประทานอภัยแก่ท่านด้วย - แต่ถ้าท่านไม่ให้อภัยผู้ทำความผิด พระบิดาของท่านก็จะไม่ประทานอภัยแก่ท่านเช่นเดียวกัน” - ถ้าพี่น้องของท่านทำผิดจงไปตักเตือนเขาตามลำพัง ถ้าเขาเชื่อฟัง ท่านจะได้พี่น้องกลับคืนมา – เราต้องเชื่อฟังพระเจ้ายิ่งกว่าเชื่อฟังมนุษย์ ฯลฯ

               ตัวอย่างคำสอนของพระเยซูเจ้าที่ยกขึ้นมานี้ ถ้าเราบอกกับตนเองว่า “รู้แล้ว” แล้วก็ทำเฉย นี้ก็แสดงว่าเรายอมรับแต่เพียงภายนอกเท่านั้น เราทำท่าเหมือนกับว่ายอมรับพระเยซูเจ้า แต่แท้จริงเราเป็นผู้ที่  “ปฏิเสธ” พระเยซูเจ้านั้นเอง มิใช่ใครที่ไหน

               แต่ถ้าเรายอมรับแบกกางเขน คือ ภาระหน้าที่ของตนเอง ความเจ็บไข้ได้ป่วย ความไม่สะดวกสบาย ความไม่ได้อะไรตามใจของเราบ้าง ถ้าเราให้อภัยแก่คนที่ทำความผิดกับเรา ถ้าเราตักเตือนพี่น้องที่ทำความผิดให้กลับมาในทางที่ถูกต้อง ถ้าเราเชื่อฟังพระเจ้า ฯลฯ นี้แหละแสดงว่าเรายอมรับและศรัทธาต่อพระเยซูเจ้าอย่างแท้จริง
เรามีโอกาสได้รับฟังพระวาจาของพระเจ้าทุกวันอาทิตย์ แต่เรามักจะคิดว่าพระวาจาตอนนี้หรือตอนนั้นเหมาะกับคนๆโน้นคนๆนี้ โดยลืมไปว่าพระวาจาของพระเจ้ามุ่งตรงมายังตัวของเราเอง ไม่ใช่ใครเลย เราต้องนำพระวาจาของพระเจ้าไปปฏิบัติจริงๆ มิใช่บอกให้คนอื่นไปปฏิบัติ

           ความจริงหรือคำสอนอาจจะทำให้เราเจ็บปวด แต่การยอมรับความจริงจะช่วยทำให้เราเป็นคนที่สะอาดบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น คำสอนของพระเจ้าทำให้เราหลุดพ้นจากความแก่ตัวและมีจิตใจที่เต็มไปด้วยความรักเยี่ยงพระเยซูเจ้า อย่าแปลกใจหรือเที่ยวมองหาว่าใครปฏิเสธหรือไม่ยอมรับพระเยซูเจ้า จนลืมมองมาที่ตนเอง



บทเทศน์วันอาทิตย์

"ผู้เลี้ยงแกะที่ดี"ข่าวดีสัปดาห์ที่ 4 เทศกาลปัสกา (B)วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2024ก.ความสำคัญ 1. อาทิตย์นี้บทอ่านทั้งสามเน้นความรักและพระทัยดีของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์โดยเปรียบเทียบกับผู้เลี้ยงแกะที่ดี ซึ่งคุณลักษณ์ของความรักความห่วงใยนี้สืบทอดมายังบรรดาผู้อภิบาลพระศาสนจักรในปัจจุบัน...
"จำพระองค์ได้ไหม"ข่าวดีสัปดาห์ที่ 3 เทศกาลปัสกา (B)วันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน 2024 ก.ความสำคัญ 1. บทอ่านจากพระคัมภีร์ประจำอาทิตย์นี้เน้นให้เรา...
"ฉลองพระเมตตา"ข่าวดีสัปดาห์ที่ 2 เทศกาลปัสกา (B)วันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน 2024 ก.ความสำคัญ 1. วันอาทิตย์นี้เป็นวันฉลองพระเมตตาของพระเจ้า...

ข่าว-ประชาสัมพันธ์

เสกน้ำมันศักดิ์สิทธิ์และรื้อฟื้นคำสัญญาแห่งศีลบวช
วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม 2024 เวลา 10.00 น. พระสังฆราชยอห์น ซิลวีโอ วิริพงษ์ จรัสศรี เป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณ เสกน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ และพิธีรื้อฟื้นคำสัญญาแห่งศีลบวช ณ...
เสกเสาเอก อาคารอนุรักษ์
วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม 2024 เวลา 09.39 น. พระสังฆราชซิลวีโอ สิริพงษ์ จรัสศรี เป็นประธานวจนพิธีกรรมเสกเสาเอก อาคารอนุรักษ์ "วัดพระหฤทัย" วัดบ้านเณร บ้างช้าง-บางนกแขวก...
วันอาทิตย์ (ใบลาน) พระทรมานของพระเยซูคริสตเจ้า
วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2024 เวลา 09.00 น. พระสังฆราชซิลวีโอ สิริพงษ์ จรัสศรี เป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณวันอาทิตย์ (ใบลาน) พระทรมานของพระเยซูคริสตเจ้า ณ อาสนวิหารแม่พระบังเกิด...
ฉลองวัดนักบุญอังเยลา ซอนต้า
วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม 2024 เวลา 10.30 น. พระสังฆราชซิลวีโอ สิริพงษ์ จรัสศรี เป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณโอกาสฉลองชุมชนแห่งความเชื่อวัดนักบุญอังเยลา ซอนต้า จ.ราชบุรี ภาพ-ข่าวโดย สื่อมวลชนคาทอลิกสังฆมณฑลราชบุรี...
ฉลองวัดพระวิสุทธิวงศ์ แพรกหนามแดง
วันอาทิตย์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2024 เวลา...
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสทรงแต่งตั้ง คุณพ่อเปาโลธวัช สิงห์สา เป็นพระสังฆราชองค์ใหม่แห่งสังฆมณฑลนครสวรรค์
สังฆมณฑลราชบุรีร่วมโมทนาคุณพระเจ้าและแสดงความยินดีกับสังฆมณฑลนครสวรรค์โอกาสที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสทรงแต่งตั้งคุณพ่อเปาโลธวัช สิงห์สาเป็นพระสังฆราชองค์ใหม่แห่งสังฆมณฑลนครสวรรค์ประกาศ ณ วันที่ 13...

ประกาศสำนักพระสังฆราช

ประกาศสังฆมณฑลราชบุรี เรื่อง การแต่งตั้งโยกย้ายพระสงฆ์เข้าดำรงตำแหน่งหน้าที่
ที่ สร.037/2024ประกาศสังฆมณฑลราชบุรีเรื่อง การแต่งตั้งโยกย้ายพระสงฆ์เข้าดำรงตำแหน่งหน้าที่...
ประกาศสังฆมณฑลราชบุรี เรื่อง อนุญาตให้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์
ที่ สร.112/2023ประกาศสังฆมณฑลราชบุรีเรื่อง อนุญาตให้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์
ประกาศสังฆมณฑลราชบุรี เรื่อง การแต่งตั้งและยืนยันตำแหน่งหน้าที่
ที่ สร.091/2023ประกาศสังฆมณฑลราชบุรีเรื่อง การแต่งตั้งและยืนยันตำแหน่งหน้าที่

คาทอลิกไทย "รวมพลังรักษ์โลก" ค.ศ.2024-2025

คาทอลิกไทยรวมพลังรักษ์โลก ค.ศ.2024-2025

สารสังฆมณฑลราชบุรี

สารสังฆมณฑลราชบุรี ปีที่ 37 ฉบับที่ 3 เดือนมกราคม-เมษายน 2024

เล่า หลัง วัด

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

ปกิณกสาระพิธีกรรม

พ่อบูรณ์พ่อบู๊ชวนคุย

ความปีติยินดีแห่งความรัก

การปกป้องคุ้มครองนักเรียนฯ

นโยบายและแนวปฏิบัติในการปกป้องคุ้มครองนักเรียน โรงเรียน/สถานศึกษาสังกัดสังฆมณฑลราชบุรี

เพื่อนร่วมทาง

สถานที่อบรม-สัมมนา

ศูนย์ภาวนา"ทาบอร์" จ.กาญจนบุรี
บ้าน"เย็นเนซาเร็ธ" จ.เพชรบุรี
ค่ายลูกเสือดรุณาเฉลิมพระเกียรติบ้านพระหฤทัย บางนกแขวก