วัดแม่พระฟาติมา ห้วยคลุม
เมื่อปี ค.ศ.1982 คุณพ่อวิโรจน์ อินทรสุขสันต์ อธิการสามเณราลัยแม่พระนิรมล ราชบุรี ซึ่งก่อนหน้านั้นได้เคยไปช่วยงานอภิบาลที่สังฆมณฑลเชียงใหม่ มีดำริว่าจะไปแพร่ธรรมกับพี่น้องชาติพันธุ์ตามแนวชายแดนไทย-พม่าเขตจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และเพชรบุรี โดยอาศัยสามเณรที่เป็นชาติพันธุ์จากสังฆมณฑลเชียงใหม่ซึ่งตอนนั้นมารับการอบรมที่สามเณราลัยแม่พระนิรมลช่วยเป็นล่ามให้
ปี ค.ศ.1983 คุณพ่อวิโรจน์ พร้อมด้วยสามเณรเดินทางเข้าไปในเขต อ.สวนผึ้ง โดยไปเดือนละครั้งในวันเสาร์ต้นเดือน ซึ่งจุดแรกที่มุ่งไปก็คือ หมู่บ้านบ้านบ่อ ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยงหมู่ใหญ่ในเขต อ.สวนผึ้ง
อันที่จริงแล้ว คุณพ่อมนตรี จูสวย เคยมาทำงานแพร่ธรรมอยู่ก่อนแล้วขณะที่ท่านอยู่ที่วัดดอนกระเบื้อง โดยจะไปพักที่บ้านกำนันละเอิง บุญเลิศ แต่คุณพ่อมนตรีเสียชีวิตเมื่อวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 1974 งานแพร่ธรรมนี้ก็เลยสิ้นสุดลง ต่อมากำนันละเอิง บุญเลิศก็เสียชีวิต คงเหลืออยู่ก็แต่ลูก ๆ และภรรยา
จากการสำรวจ คุณพ่อวิโรจน์ไม่พบคริสตชนเลย ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ และนับถือโปรเตสแตนต์บ้าง ปัญหาแรกที่ต้องประสบก็คือปัญหาเรื่องภาษา กล่าวคือภาษากะเหรี่ยงที่บ้านบ่อนี้ ไม่เหมือนภาษากะเหรี่ยงในเขตภาคเหนือทีเดียว แต่ก็ยังพอจะเข้าใจกันได้บ้าง
จนปี ค.ศ. 1984 คุณพ่อได้ทราบว่า มีครอบครัวคริสตชนครอบครัวหนึ่งอพยพมาจากชายแดนพม่าพร้อมกับลูก ๆ โดยมารับจ้างเลี้ยงวัวให้กับบริษัทฟาร์มที่บริเวณห้วยคลุม ทุกคนเกิดและรับศีลล้างบาปในประเทศพม่ากันหมดทุกคน และได้อพยพเข้ามาอยู่ในเขต อ.สวนผึ้งนี้ เป็นเวลากว่า 10 แล้ว โดยไม่เคยได้พบพระสงฆ์ ไม่เคยแก้บาปรับศีลเลย ดังนั้น คุณพ่อจึงได้นัดพบกัน เพื่อถวายมิสซาเดือนละครั้งในวันเสาร์ต้นเดือน โดยมิสซาจะเป็นภาษาไทย แต่จะเทศน์และขับร้องเป็นภาษากะเหรี่ยงอาศัยกลุ่มเณรกะเหรี่ยงเป็นผู้ช่วย นอกจากนี้ครอบครัวคริสตชนไม่มีที่ทำกินเป็นของตนเอง อาชีพหลักคือรับจ้างเลี้ยงวัว ได้ค่าแรงวันละ 30 บาท จึงต้องหาที่ดินเพื่อสร้างวัด และแบ่งให้คริสตชนทำมาหากิน จึงสามารถตั้งกลุ่มคริสตชนได้ ที่สุดก็สามารถซื้อที่ดินได้ 177 ไร่ ในบริเวณห้วยคลุม ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปจากตัว อ.สวนผึ้ง ประมาณ 14 กม. เพื่อสร้างวัดและสร้างกลุ่มคริสตชน ต่อมาได้ลงมือสร้างวัดชั่วคราวขึ้นกลางหมู่บ้าน ลักษณะของวัดเป็นวัดไม้ไผ่มุงสังกะสี กว้าง 5 เมตร ยาว 15 เมตร หลังวัดกั้นห้องพักพระสงฆ์ เพราะคุณพ่อจะเข้ามาถวายมิสซาให้เดือนละครั้ง การเข้าออกหมู่บ้านห้วยคลุมนี้ มีอุปสรรคมาก รถมักติดทรายกลางลำห้วยอยู่เป็นประจำ ถ้าหากฝนตกและมีน้ำมากก็ไม่สามารถเอารถข้ามไปได้ ก็จำต้องฝากรถไว้แล้วเดินเท้าเข้าไปประมาณ 10 กม. โดยมีชาวบ้านมาช่วยหิ้วสัมภาระเข้าไป กลุ่มคริสตชนได้ขยายตัวขึ้นเป็นลำดับ
จนกระทั่งวันที่ 19 มีนาคม ค.ศ. 1987 จึงได้เริ่มสร้างวัดหลังใหม่ซึ่งเป็นหลังปัจจุบัน บนเนินสูงเหนือหมู่บ้าน เป็นวัดเล็กขนาดกว้าง 6 เมตร ยาว 21 เมตร สามารถบรรจุคนได้ 100 คน ด้านหลังวัดทำเป็น 2 ชั้น ชั้นบนเป็นที่พักพระสงฆ์ วัดหลังนี้ต้องใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า 3 ปีจึงแล้วเสร็จ และได้ถวายวัดหลังนี้ในความอุปถัมภ์แด่แม่พระฟาติมา ได้รับการเสกโดยพระสังฆราชมนัส จวบสมัย เมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1992
ปัจจุบัน มีคุณพ่อวัชระ พฤกษาโรจนกุล เป็นเจ้าอาวาส
ตั้งอยู่เลขที่ 96/3 หมู่ 5 ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี