DOMUS NOVA IN ANTIQUA SEDE

ร่วมสนับสนุนโครงการ "โครงการอนุรักษ์วัดพระหฤทัย""โครงการอนุรักษ์วัดพระหฤทัย"
(วัดเก่าของบ้านเณรพระหฤทัย บางช้าง-บ้านเณรแม่พระนิรมล บางนกแขวก)
เชิญร่วมสนับสนุนโครงการได้ที่
ธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนสมบูรณ์กุล ราชบุรี
ชื่อบัญชี มิสซังโรมันคาทอลิกราชบุรี
เลขที่บัญชี 530-7-07021-8


***กรุณาแจ้งการโอนเงินของท่านมายังสำนักงานสังฆมณฑลราชบุรี เพื่อทางสังฆมณฑลจะออกใบอนุโมทนาบัตรให้
*** สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
สำนักงานสังฆมณฑลราชบุรี / บ้านพระหฤทัย SS. CORDIS JESU
คุณพ่อชิตพล แซ่โล้ว
โทร. 096-172-8794
Line : ratchaburidiocuria

 

             บ้านเณรที่บางช้างหรือบางนกแขวกแห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่ฝึกอบรมสามเณรถึง 3 สมัย กล่าวคือ สามเณรของมิสซังกรุงเทพฯ (มิสซังสยามตะวันออก) สามเณรของคณะซาเลเซียน และสามเณรของมิสซังราชบุรี สถานที่แห่งนี้ได้สร้างบุคลากรที่มีคุณค่าให้แก่พระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทยอย่างมากมาย มีศิษย์เก่าเป็นบุญราศี 2 องค์ พระสังฆราช 13 องค์ พระสงฆ์นับร้อยองค์ และคริสตชนฆราวาสจำนวนมากที่มีใจศรัทธาช่วยเหลือสนับสนุนพระศาสนจักรเสมอมา บ้านเณรแห่งนี้จึงนับว่าได้ทำประโยชน์ให้แก่พระศาสนจักรอย่างมากมาย ควรจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของพระศาสนจักรอย่างไม่มีวันลบเลือน

 

              หลังจากที่พื้นที่ของบ้านเณรบางช้าง-บางนกแขวกถูกทิ้งร้างไว้เป็นเวลานานหลายสิบปี ใน ค.ศ. 2020 สำนักงานสังฆมณฑลราชบุรีได้เริ่มทำการศึกษารายละเอียดและรวบรวมข้อมูลบ้านเณรบางช้าง-บางนกแขวก โดยออกไปสัมภาษณ์บรรดาศิษย์เก่าที่เคยอาศัยอยู่ในบ้านเณรหลังนี้ รวมถึงได้สัมภาษณ์ อาจารย์พิบูลย์ ยงค์กมล ศิษย์เก่าบ้านเณรแม่พระนิรมล บางนกแขวกด้วย ท่านมีความรัก ความผูกพันกับบ้านเณรแห่งนี้เป็นอย่างมากและปรารถนาที่จะให้มีการฟื้นฟูอาคารบ้านเณรหลังนี้ขึ้นมาใหม่

 

              จนกระทั่งวันที่ 30 พฤศจิกายน ค.ศ. 2020 หลังจากที่ท่านได้เดินทางมาเยี่ยมพระสงฆ์อาวุโสที่ศูนย์สังฆมณฑลราชบุรี ท่านได้ไปตรวจดูพื้นที่ของบ้านเณรบางช้าง-บางนกแขวก ซึ่งในครั้งนี้ท่านได้แสดงเจตนาที่จะสนับสนุนการก่อสร้างอาคารขึ้นมาใหม่บนพื้นที่เดิมของบ้านเณรหลังนี้

 

              วันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ. 2020 สังฆมณฑลราชบุรี ได้อนุมัติให้ดำเนินการก่อสร้างอาคารบนพื้นที่ของบ้านเณรแห่งนี้ โดยให้มีลักษณะคล้ายคลึงกับอาคารของบ้านเณรหลังเดิม เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานและแหล่งศึกษาเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ของบ้านเณรบางช้าง-บางนกแขวกอีกทั้งยังมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นศูนย์อบรมบุคลากรของสังฆมณฑลอีกด้วย

 

อาจารย์ยอห์น บอสโก พิบูลย์  ยงค์กมล              หลังจากที่ได้รับการอนุมัติจากสังฆมณฑล อาจารย์พิบูลย์พร้อมด้วยทีมงานของท่านก็ได้เข้ามาดำเนินการก่อสร้างโดยทันที โดยเริ่มทำการตอกเสาเข็มต้นแรกในวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 2020 การดำเนินการก่อสร้างอนุสรณ์สถานและศูนย์อบรมแห่งนี้ได้รับการสนับสนุนจากอาจารย์พิบูลย์ ด้วยความทุ่มเทและเอาใจใส่เป็นอย่างยิ่ง ท่านมักจะเดินทางมาคุมงานก่อสร้างด้วยตัวท่านเองอยู่บ่อย ๆ ท่านเอาใจใส่ในรายละเอียดต่าง ๆ ตั้งแต่การถมที่ดิน ลงเสาเข็ม งานโครงสร้าง การทำรั้ว ซุ้มประตูทางเข้า ไปจนถึงรายละเอียดเล็ก ๆ เช่น บัวปูนที่ติดตั้งตามส่วนต่าง ๆของอาคาร ก็ต้องมีการปรับขนาดของบัวปูนอยู่หลายครั้ง หรือแม้แต่สีของอาคาร ท่านก็เป็นผู้พินิจพิเคราะห์และเลือกด้วยความตั้งใจ นอกจากนี้ท่านยังได้ซื้อที่ดินคืนมาได้อีกจำนวน 3 งาน 72 ตารางวา และได้สร้างอาคารประกอบการเพิ่มขึ้นอีก 1 หลัง

 

              ด้วยความอาลัยอย่างสุดซึ้ง ในวันที่ 5 พฤษภาคม ค.ศ. 2021พระเจ้าได้รับอาจารย์พิบูลย์ไปพักผ่อนตลอดนิรันดรกับพระองค์ ส่งผลให้การดำเนินงานก่อสร้างซึ่งใกล้จะสำเร็จแล้วนั้นได้หยุดชะงักลง แต่ต่อมาทางครอบครัวยงค์กมล และสังฆมณฑลราชบุรีก็ได้ดำเนินการต่อจนสำเร็จ

 

อนุสรณ์สถานและศูนย์อบรมแห่งนี้ได้รับการตั้งชื่อว่า
“บ้านพระหฤทัย”
มีพิธีเปิด-เสก ในวันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม ค.ศ. 2021 เวลา 09.00 น.
โดย พระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู เป็นประธานในพิธี

 

 

              แม้ว่าอาคารเดิมของบ้านเณรบางช้าง-บางนกแขวกส่วนใหญ่จะถูกรื้อถอนออกไปจนเกือบหมดนานมาแล้วแต่ส่วนฐานของวัดน้อยประจำบ้านเณรแห่งนี้ยังคงอยู่ นับได้ว่าเป็นร่องรอยทางประวัติศาสตร์ชั้นดีที่มีคุณค่าต่อพระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทย ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้สำหรับชนรุ่นหลัง

 

              ค.ศ. 2022 ทางฝ่ายสำนักงานสังฆมณฑลราชบุรี ได้ทำการศึกษาถึงแนวทางการอนุรักษ์วัดเก่าของบ้านเณรบางช้าง-บางนกแขวก จึงได้เลือกแนวทางของการสร้างอาคารคลุมฐานวัดหลังเก่า โดยจะเก็บรักษาซากอาคารเดิมของวัดไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อได้ทำการออกแบบอาคารเสร็จแล้ว ทางฝ่ายสำนักงานสังฆมณฑลจึงได้นำเสนอโครงการต่อคณะกรรมการบริหารสังฆมณฑล

 

              วันที่ 11 เมษายน ค.ศ. 2023 คณะกรรมการบริหารสังฆมณฑลราชบุรีได้อนุมัติโครงการก่อสร้างอาคารอนุรักษ์วัดพระหฤทัย

 

              วันที่ 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 2023 ได้มีการลงนามทำสัญญาก่อสร้างอาคาร โดยเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 1 ชั้น

 

              วันที่ 22 มกราคม ค.ศ. 2024 ได้เริ่มทำการเจาะเสาเข็มต้นแรก

 

             วันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 2024 เวลา 09.39 น.พระสังฆราชซิลวีโอ สิริพงษ์ จรัสศรี ได้ประกอบวจนพิธีกรรมเสกเสาเอก โดยมีบรรดาพระสงฆ์และคริสตชนมาร่วมในพิธีนี้ งานก่อสร้างอาคารอนุรักษ์วัดพระหฤทัยได้ดำเนินการไปตามแผนอย่างต่อเนื่องจนสำเร็จ อาคารหลังนี้มีความกว้าง 19.40 เมตร ยาว 29.40 เมตร และสูง 13.50 เมตร

 

               วันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 2024 เวลา 10.00 น. โอกาสฉลองบ้านพระหฤทัย พระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู เป็นประธานในพิธีเปิด-เสกอาคารอนุรักษ์ “วัดพระหฤทัย” โดยมีพระสังฆราชซิลวีโอ สิริพงษ์ จรัสศรี พระสังฆราชเปาโล ไตรรงค์ มุลตรี บรรดาพระสงฆ์ นักบวช และฆราวาสมาร่วมในพิธีนี้

 

               อาคารอนุรักษ์วัดพระหฤทัยแห่งนี้นอกจากจะเป็นสถานที่ศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของบ้านเณรแล้ว อาคารหลังนี้จะถูกใช้สำหรับการอธิษฐานภาวนาและถวายคารวกิจแด่พระเจ้า ดังที่เคยเป็นมาในอดีตที่บรรดาสามเณรได้ใช้ในการภาวนาสรรเสริญพระเจ้าและประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ

 

               บ้านเณรบางช้าง-บางนกแขวกนับได้ว่ามีความสำคัญต่อพระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทยอย่างมากเป็นพิเศษต่อสังฆมณฑลราชบุรี จึงขอเชิญชวนบรรดาคริสตชนจะได้มีส่วนร่วมช่วยกันอนุรักษ์ บำรุงรักษาบ้านพระหฤทัย ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานของบ้านเณรแห่งนี้ และเป็นศูนย์อบรมของสังฆมณฑลไว้ตราบนานเท่านาน

 

              ขอพระเจ้าโปรดตอบแทนในน้ำใจดีของทุกท่านที่ได้มีส่วนช่วยสนับสนุนการดำเนินการก่อสร้างบ้านพระหฤทัย ตลอดจนการดำเนินกิจการของบ้านหลังนี้ต่อไปในภายภาคหน้า

 

 

 

 

           ใน ค.ศ. 1955 พระสังฆราชเปโตร คาเร็ตโต ได้เริ่มย้ายสำนักงานพระสังฆราชมาประจำที่อำเภอเมืองราชบุรี เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อกับวัดต่าง ๆ

 

           ใน ค.ศ. 1956 เริ่มมีการสร้าง ศูนย์ของมิสซังราชบุรี เป็นอาคารคสล. 3 ชั้น แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ โรงเรียนดรุณาราชบุรี สำนักพระสังฆราช และสามเณราลัยแม่พระนิรมล โดยมีการวางศิลาฤกษ์ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1956 อาคารส่วนของบ้านเณรก่อสร้างเสร็จและเสกในวันที่ 9 มีนาคม ค.ศ. 1959

 

           ในปีเดียวกันนี้ คุณพ่อซิลวีโอ โปรเวรา อธิการคนแรกได้นำบรรดาสามเณรย้ายข้าวของทุกอย่างจากบ้านเณรบางนกแขวกมาอยู่บ้านเณรแห่งใหม่ที่ราชบุรีจนถึงปัจจุบัน และนับตั้งแต่นั้นมาอาคารบ้านเณรบางนกแขวกก็กลายเป็นตึกร้าง ไร้คนอาศัย และในเวลาต่อมาก็ได้ถูกรื้อถอนออกไป